søndag 29. september 2013

แต่งตัวตามองศา หนาว, ใบไม้ผลิ, ร้อน และใบไม้ร่วง

อัพเดทล่าสุด 02-09-16

การแต่งกายตามองศา ตามฤดูการของนอร์เวย์ หรือ จะนำมาประยุกต์กับประเทศอื่นก็ได้ เพราะระบุองศาไว้ด้วยกับการใส่เสื้อผ้า 

มาเริ่มกันเลยจ้า 
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 
เพราะความขี้หนาว และ ไขมันของแต่ละบุคคล ไม่เท่ากัน!!

          บางทีการแต่งตัวของเราแบบอุ่นเกินไป ก็ทำให้หลายคนมองว่าเราเว่อบ้าง อะไรบ้าง แต่เราก็อย่าได้แคร์ค่ะ เพราะเราอุ่นร่างกายและร่างกายเราก็แข็งแรง ไม่ป่วยง่ายแบบสาวที่นี่นะ ชอบแต่งตัวโชว์ว่าชั๊นไม่หนาว อะไรประมาณนี้ แต่จริงแล้วนางหนาวค่ะ แต่อยากจะสวยเท่านั้นเอง 

          เรามีเพื่อนเป็นสาวนอร์ช ไปเที่ยวไปไหนกับนางทีไร บ่นหนาวจะกลับบ้านทุกที - -' เรื่องจริงเลย ก็เพราะนางแต่งน้อยไปล่ะ


สำหรับเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์
*ถ้าเป็นตอนเหนือของนอร์เวย์ ก็มีแต่ฤดูหนาวตลอดทั้งปี*
ฤดูหนาว 
ธันวาคม, มกราคม, กุมภาพันธ์ 


ฤดูใบไม้ผลิ 
มีนาคม, เมษายน, พฤษภาคม
ซากุระ ที่ออสโล


ฤดูร้อน
มิถุนายน, กรกฎาคม, สิงหาคม 
(จากปสก.ฤดูร้อนของที่นี่ มีแค่เดือน กค.และ สค. 
แต่ก็เป็นฤดูหนาวของคนกทม.อยู่ดี)

ฤดูใบไม้ร่วง 
กันยายน, ตุลาคม, พฤศจิกายน


*อาจไม่เป็นตามนี้เสมอไป เช่น ฤดูร้อน อาจหนาวได้ หรือฤดูใบไม้ร่วง อาจมีหิมะตกได้ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในปัจจุบัน


         ในฤดูหนาว  แนะนำว่า ต้องหาแจ๊คเก็ตดีๆ สักตัว ที่ให้ความอบอุ่นเยอะๆ จะได้ใส่ข้างในน้อยๆ เพื่อจะได้สบายตัวในการเคลื่อนไหว

          อีกอย่างนึงที่ตามมาในหน้าหนาว คือ น้ำมูกไหล เดินๆ อยู่ก็ไหล ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น จะออกไปไหนต้องพกกระดาษทิชชู่เสมอๆ

แจ๊คเก็ตขนเป็ดนี้จาก ZARA จากราคา12xx หรือ 279 kr.
อุณหภูมิ -21 ถึง -30 องศา ช่วง 
ฤดูโคตรหนาว 
  • สวมเสื้อลองจอห์น 1-2 ชั้น 
  • เสื้อแขนยาว 1-2 ชั้น หรือ วูลแบบหนา หรือ บางแล้วแต่
  • เสื้อขนเป็ดยาว
  • กางเกงขายาวสวมทับกางเกงลองจอห์น 1 ชั้น และปลอกไหมพรมขา 
  • ถุงเท้าอย่างหนาหรือผสมขนแกะ
  • รองเท้ากันหนาวด้านในบุด้วยขนสัตว์ 
  • ผ้าพันคอไหมพรมหรือวูล
  • หมวก
  • ถุงมืออย่างหนาหรือวูล

          แต่ถ้าหนาวมากกว่า -30 องศา มีอะไรก็ใส่ๆๆๆ ไปหรือไม่จำเป็นต้องออกไปไหนก็อยู่บ้านดีกว่าค่ะ เพราะเวลาหนาวมันหนาวจริงๆ หนาวเข้ากระดูกเลย จินตนาการว่าอยู่ในห้องฟรีสแล้วกันว่าจะหนาวแข็งขนาดไหน แถมลมด้วย เวลาหายใจนะมีแต่ความเย็น บรื๊อ... น้ำมูกก็ไหลปื๊ดๆ :P


          ถ้าจะซื้อเสื้อขนเป็ด ที่ๆ เราไม่แน่ใจในสินค้าหรือตามร้านแผงลอย ก็ลองใช้มือจับๆ คลำๆ ดู ถ้ารู้รู้สึกว่ามันมีก้านๆ โอเคซื้อได้
________________________________


อุณหภูมิ -11 ถึง -20 องศา ช่วง ฤดูหนาวมากๆ 
ซื้อที่นอร์เวย์ แบบบางบาง แต่ผสมวูลอย่างดี

ราคาชุดนี้ 500 กว่าโครน

  • สวมชุดลองจอห์น 1 ชั้น (หรือ 2 ชั้นแล้วแต่ ถ้าขี้หนาว) ชุดลองจอห์นซื้อจากไทยจะเป็นแบบหนา ถ้าซื้อที่นี่จะเป็นแบบบาง และคุณภาพของที่นี่ชนะขาด แต่ก็ใส่ร่วมกันได้

  • เสื้อแขนยาว 1-2 ชั้น แล้วแต่หนา หรือ บาง
  • เสื้อแจ๊คเก็ตขนเป็ดยาว
  • กางเกงขายาวสวมทับกางเกงลองจอห์น หรือ ใส่ที่คล้ายๆ กับถุงน่องแต่ผสมขนสัตว์ลงไปชั้นแรก และทับด้วยกางเกงขายาว หรือ ใส่กางเกงขายาว และทับด้วยปลอกไหมพรมขา
  • ถุงเท้าอย่างหนาหรือผสมขนแกะ
  • รองเท้ากันหนาวด้านในบุด้วยขนสัตว์
  • ผ้าพันคอไหมพรมหรือวูล
  • หมวก 
  • ถุงมืออย่างหนาหรือวูล

อย่าซื้อ!! ชุดกันหนาว หรือ อุปกรณ์กันหนาวใดๆ จากไทย เพราะมันใช้ไม่ได้จริง ซื้อมาต้องทิ้งอะ จากปสก.และจากเพื่อนๆ บ่น (ไม่ว่าจะหลังการบินไทย หรือแพลตทินั่มก็ตาม)
ซื้อจากไทย แพลททินั่ม หนา แต่ไม่ค่อยอุ่นเลย แถมกางเกงขายาวไม่เท่ากันด้วย อารมณ์เสีย!! มาค้าบอกว่า กันหนาวได้ลบสิบ ชุดนี้ ราคา 900 บาท
________________________________


อุณหภูมิ 0 ถึง -10 องศา ช่วง ฤดูหนาว

เสื้อวูล มีหลายตัวไว้ก็ดี ให้ความอบอุ่นดีกว่าเสื้อคัตต้อน เหมาะกับคนขี้หนาว แต่
ถ้าใส่เสื้อวูลไว้ชั้นในสุด จะคันมากๆ ดังนั้นต้องใส่เสื้อแขนยาวแบบอื่นใส่ไว้ข้างในก่อนเสมอ
  • สวมชุดลองจอห์น(long john) ควรเลือกคุณภาพผสมจากขนสัตว์จะอุ่นดีมากๆ 
  • เสื้อแขนยาว 1 ชั้น สวมทับเสื้อลองจอห์น หรือ เสื้อแขนสั้น และใส่ลองจอห์นทับ และทับด้วยเสื้อแขนยาวแบบหนาอีกที
  • แจ๊คเก็ตขนเป็ดแบบยาว จะได้ไม่เย็นก้น
  • กางเกงขายาวสวมทับกางเกงลองจอห์น หรือ ใส่ที่คล้ายๆ กับถุงน่องแต่ผสมขนสัตว์ลงไปชั้นแรก และทับด้วยกางเกงขายาว หรือ ใส่กางเกงขายาว และทับด้วยปลอกไหมพรมขา
  • ถุงเท้าอย่างหนาหรือผสมขนสัตว์
  • รองเท้ากันหนาวด้านในบุด้วยขนสัตว์
  • ผ้าพันคอไหมพรมหรือวูล
  • หมวก 
  • ถุงมือวูล

เสื้อแบบนี้ เหมือนจะอุ่นแต่ไม่อุ่นนะจ๊ะ เป็นคัตต้อนธรรมดา
________________________________


อุณหภูมิ 1 ถึง 5 องศา ช่วง เข้า - ออก ฤดูหนาว


  • สวมเสื้อแขนยาว 1-2 ชั้น มีวูลก็ใส่วูล มีธรรมดาก็ใส่ธรรมดา หรือ (เสื้อลองจอห์น 1 ชั้น และตามด้วยเสื้อแขนยาว 1 ชั้น) ก็ได้ อุ่นชัวๆ
  • แจ๊คเก็ตเป็นใยโพลีอีสเตอร์ หรือ ขนเป็ดปล้องๆ ก็ดี
  • กางเกงยีนอย่างหนาเล็กน้อย 
  • รองเท้าสำหรับวินเทอร์ ข้างในจะอุ่นๆ หรือใส่ผ้าใบก็ได้ แต่จะเย็นเท้าหน่อย  หรือ รองเท้าหนังแบบบูธ ก็เวิร์ค
  • ถุงเท้ายาวเลยข้อเท้า 
  • ผ้าพันคอ สำคัญมากกก 
รองเท้าแบบนี้ฮิตมาก ข้างในเป็นขนแกะ อุ่นมาก 
แต่ไม่แนะนำใส่วันฝนตก จะทำให้รองเท้าเป็นคราบ ไม่สวย
_______________________________


อุณหภูมิ 6 ถึง 12 องศา ช่วงฤดูใบไม้ร่วง กับ ฤดูใบไม้ผลิ


ตัวนี้เป็นวูล 95% เยอะมาก อุ่นดี ชอบ แบบก็สวยจาก Mood of Norway ราคาเต็ม 2xxx โครน ซื้อตอนลดราคา 800 kr. คุ้มสุดๆ
  • สวมเสื้อแขนยาว 1 ชั้น หรือ เสื้อยืดยัดใน 1 ชั้น ร่วมด้วย (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแจ๊คเก็ตด้วยว่า หนา หรือ บาง คุณภาพดีแค่ไหน)
  • แจ๊คเก็ตวูลยาวหน่อย 
  • กางเกงยีน 
  • รองเท้าผ้าใบ 
  • ถุงเท้ายาวเลยข้อเท้า
*ถุงมือ หมวก ใช้ได้ แต่สำหรับคนที่นี่ อุณหภูมิขนาดนี้จะไม่ค่อยใช้กัน ส่วนผ้าพันค่อนข้างสำคัญนะ ถ้าไม่อยากป่วย... 
________________________________


อุณหภูมิ 13 ถึง 18 องศา ช่วง ฤดูใบไม้ร่วง กับ ฤดูใบไม้ผลิ
แจ๊คเก็ตนี้หนังแท้ จะอุ่นกว่า ชอบมากตัวนี้จาก 
Mango 999 โครน ลดเหลือ 700 โครน
  • สวมเสื้อแขนยาว 1 ชั้น หรือ เสื้อยืดยัดใน 1 ชั้น ร่วมด้วย (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแจ๊คเก็ตด้วยว่า หนา หรือ บาง)
  • แจ๊คเก็ต
  • กางกางยีน 
  • ผ้าพันคอแบบบาง ถ้าคิดว่าเย็นที่คอนะ หลายคนก็ใช้บ้าง ไม่ใช้บ้าง เพราะความรู้สึกหนาวของแต่คนต่างกัน
  • รองเท้าผ้าใบ, รองเท้าหนังบูท
________________________________


อุณหภูมิ 19 ถึง 25 องศา  ช่วง ฤดูร้อน *ถ้ายืนกลางแดดแรงๆ ทะลุ 30 องศาได้ จนทำให้แสบผิว แต่ถ้าในที่ร่มเงา ก็รู้สึกเย็นๆ
หนังเทียม ไม่อุ่น ใส่เก๋ๆจาก Mango 500 kr.



  • สวมเสื้อยืด 1 ตัว 
  • กางเกงยีนขายาว, ขาสั้น, กระโปรง ตามสะดวก
  • ใส่เสื้อหนังเท่ๆ (แบบบาง) ก็เป็นที่นิยมมาก, เสื้อยีน หรือ เสื้อแบบซิปรูดด้านหน้าก็ฮิตล่ะ หรือ เก๋ามากก็เสื้อยืดตัวเดียวเลยจ้า
  • รองเท้าผ้าใบ, รองเท้ารัดส้น, รองเท้าอีแตะ
สำหรับคนที่นี่อุณหภูมิขนาดนี้ถือว่าเป็นอะไรที่ดีมากๆ บางปีก็แตะถึง 30 องศาเลยจ้า.....ถ้าอยู่กลางแดดนะ
________________________________

          ถ้าใครคิดว่ามากไป หรือ น้อยไป ก็เพิ่มลดตามสะดวก เพราะอากาศที่พูดถึงนี้ ยังไม่คำนวณแรงลมนะจ๊ะ วันไหนลมนิ่งก็สบายๆ ชิวๆ ไปล่ะ
________________________________  


แนะนำการซื้อ - การใช้ - สิ่งจำเป็น


 *หมวก ถุงมือ ผ้าพันคอ หรือที่ปิดหู แนะนำว่าควรใช้ เรามาจากประเทศร้อนไม่มีความอดทนต่อลมเย็นๆ เข้าหู พอเดินข้างนอกนานๆ จะทำให้ปวดหูทรมานมากและไม่สบายได้ง่าย ควรสวมถุงมือด้วย เพราะจะช่วยถนอมมือไม่ให้แห้งด้านง่ายด้วยค่ะ ส่วนผ้าพันคอ ก็จำเป็น หนาวมากหนาวน้อยก็เปลี่ยนผ้าพันคอใช้หนาบางต่างกัน ผ้าพันคอนี่ใช้ได้ถึงประมาณ 18 องศาเลย(แบบบาง) แต่ถ้าชินกับอากาศแล้ว ก็ไม่มีปัญหา 
________________________________  

ที่กันลื่น เวลาพื้นเป็นน้ำแข็ง
          หลายคนชอบพูดว่า สิ่งนี้สำหรับคนแก่...... อย่าได้แคร์จ้า พอใส่เดินเสร็จเราก็ถอดออกเก็บใส่ถุง ไม่จำเป็นต้องใส่เดินตลอดทาง ไปห้าง ขึ้นรถไฟ 
          อย่าเอาชีวิตไปแลกกับการที่คนอื่นมองว่าสำหรับคนแก่ เพราะมีคนลื่นหัวแตกมาเยอะมาก ปลอดภัยไว้ดีที่สุด

         วิธีใช้ สวมไว้ใต้รองเท้า จะทำให้เดินง่ายขึ้น โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเดินลื่นล้มก้นจ้ำเบ้าเลยค่ะ มันจะมีหมุดยึดไว้ด้านล่าง หาซื้อได้ตามร้าน G Sport กับ Apotek มีหลายแบบ อันเล็ก อันใหญ่ สำหรับเดิน วิ่ง ฯลฯ ราคาประมาณ 119 kr. = 595 บาท

          จาก ปสก. ล้มก้นจ้ำเบ้ามาหลายครั้งเลยค่ะ บางทีขี้เกียจใส่ที่ป้องกัน เพราะคิดว่าไม่เป็นไรหรอก ไม่ล้มอยู่แล้ว แต่ก็ลื่นทุกที :D
__________________________________________________


ถุงมือหนังแฟชั่น ใส่ติดลบเอาไม่อยู่ อย่าซื้อ และซื้อจากไทยของไม่ดีจ้า หรือพูดง่ายๆ ว่า ของใช้หน้าหนาวควรซื้อที่ประเทศที่เราจะไปอยู่ดีที่สุด เพราะด้วยคุณภาพดีกว่ากันเยอะ แถมราคาก็ไม่ต่างกันนักด้วยล่ะ พูดจริง ใช้ถุงมือผสมวูลดีกว่า

          ถุงมือยาง หน้าตาธรรมดา ราคาถูกๆ มีประโยชน์มากล่ะขอบอก ถ้าถุงมือปกติที่มีอยู่มันไม่อุ่น ก็ใส่ถุงมือยางไว้ข้างใน แล้วก็ใส่ถุงมือกันหนาวทับอีกที คือจะบอกว่ามันอุ่นมาก จนร้อนเปียกเลยล่ะ อย่างตอนเราไปเล่นสกี เราไม่มีถุงมือกันน้ำ เราก็ใส่ถุงมือยางชั้นแรก ชั้นสองก็ถุงมือธรรมดา เล่นสกีนะ ไม่เย็นมือเลย แต่ถุงมือชั้นนอกเปียกโซค.... 
____________________________________


ตัวนี้ใส่เวลาไปเดินป่า går på tur. มันจะบาง(แต่ถึงจะบาง เวลาเดินนานๆ เราจะเหงื่อออกและอุ่นเอง) แต่กันลม กันน้ำ หรือใส่ตอนวันฝนตกก็ได้(ใส่วันฝนตกในช่วงหนาว ก็ใส่เสื้อด้านในเพิ่ม) ยี่ห้อนี้ฮิตมาก แต่แพงด้วย ซื้อมาตอนลด 6xx kr.         

ตัวนี้สำหรับไปเล่นสกี ลุยหิมะ กลิ้งๆๆๆ บนหิมะ ซื้อตอนลดราคา เหลือ 100 kr. = 500 บาท จาก H&M ไซค์เด็ก ราคาจริง 400 kr. = 2,000 บาท ก็คุ้มนะ ใส่เล่นหิมะ ข้างในบุอุ่นนิดนึงล่ะ  (ถ้าใส่พวกเสื้อขนเป็ดไปลุยหิมะระวังเปียกซึมนะจะบอกให้ แถมอุ่นไม่พอด้วยลมเข้าได้)
  
        กางเกงไปจับปลา เอ้ย! กางเกงไปคลุกกลิ้งกับหิมะ ต่างหาก ราคาเริ่มต้น 500 kr. คือ อุ่นมากๆๆๆๆๆๆๆๆ เว่อๆ อะ ลมไม่เข้า ไม่เปียกใดๆ ใครจะไปเล่นหิมะ สไลด์เด้อ เล่นสกีอะไร แนะนำต้องมี ต้องซื้อ!!
          รองเท้าอันนี้แบบกันน้ำ เหมาะสำหรับช่วงหิมะเยอะ เปียกแฉะ คู่นี้ตอนซื้อมาแพงมาก เพราะตอนนั้นสินค้ายังไม่ลดราคา ซื้อด้วยความจำเป็นล่ะ
          ไหมพรมปลอกขา ยาวจากเข่าถึงข้อเท้า สวมคลุมทับด้านนอกของกางเกง ช่วยเพิ่มความอุ่นอีก 1 ชั้น มีขายตามห้างร้านทั่วไป ราคาไม่แพงจ้า ไม่เกิน 100 โครน
          หรือถ้าใครจะใส่เสื้อแจ๊คเก็ตยี่ห้อ canada goose ก็ได้ค่ะ สำหรับคนตังเยอะเหลือใช้ หรือบางคนซื้อใส่เพื่อความโก้ เพราะวัยรุ่นหลายคนที่นี่ ก็ใส่กันอวดบ้าง แต่ยอมรับว่ายี่ห้อนี้เค้าดีจริง ราคาของจริง 6,000 kr. = 30,000 บาท อุ้บ!!...แพงจนจุก :D

          ที่นี่เค้าใส่เสื้อผ้า รองเท้า พร้อมกับสภาพอากาศทุกประเภท อย่างรองเท้านี่ ทั้งผ้าใบ บูทหน้าหนาว บูทหน้าฝน รองเท้าอุ่นๆ หน้าหนาว รองเท้าแต่ะ นี่คือสิ่งจำเป็นเลยล่ะ แจ๊คเก็ตก็เหมือนกันมีทุกฤดู ถ้าช่วงฝนตก เค้าก็จะใส่เสื้อสำหรับกันฝนโดยเฉพาะ 

          อยู่ไปอยู่มา จะเริ่มชินกับอากาศหนาว และเริ่มใส่น้อยลงค่ะ จากปสก. เดี๋ยวนี้ อุณหภูมิ -10 องศาใส่กางเกงยีนตัวเดียวยังไหว ปกติต้องใส่ข้างในอีกตัว ไม่ก็เป็นไหมพรมหุ้มขา แต่ถ้าใครมือใหม่ ไปเที่ยว หรือ เพิ่งย้ายมาอยู่ ก็จัดเต็มเชิญตามสบายค่ะ :)



บทความแนะนำ โดย All about Norway
คลิกที่ลิ๊งด้านล่างได้เลยจ้า 

การเรียนภาษา

การหางาน และ นาฟ

วีซ่า

ความรู้ทั่วไป

รีวิว ที่เที่ยวใน Oslo

tirsdag 3. september 2013

นอร์เวย์ มี 4 ฤดู คือ

ฤดูและอากาศ ของประเทศนอร์เวย์
เน้น Oslo




ฤดูหนาว : Winter 
ธันวาคม, มกราคม, กุมภาพันธ์ 
December, January, February


          อุณหภูมิเฉลี่ย 0°C -  -25°C หรือลบมากกว่านั้นแล้วแต่ปีพระอาทิตย์จะเริ่มขึ้นประมาณ 9 นาฬิกา และจะเริ่มตกประมาณ 15:00 นาฬิกา อากาศในแต่ละวัน บางวันท้องฟ้าสีเทา ไม่มีพระอาทิตย์ ให้ความรู้สึกหดหู่ ง่วงนอนตลอดเวลา ไม่กระปรี๊กระเป่า มองไปทางไหนก็มีแต่ต้นไม้เปลือยกาย ไม่มีดอก ไม่มีใบ ผู้คนจะอยู่แต่ในที่พักอาศัย จะไม่ค่อยออกไปเดินเล่นนัก ..... จะว่าไปแล้วฤดูหนาวของนอร์เวย์นับตั้งแต่ พฤจิกายน ถึง มีนาคมก็ยังได้นะช่วงนั้นประมาณ 0-8 องศา  หนาวของที่นี่ช่างยาวนาน นานจนนั่งนับวันรอซัมเมอร์จนเหนื่อยเลยล่ะ
          ปี 2019 ช่วงหลังๆ นี้ โลกร้อนจริงๆ ค่ะ เพราะมันไม่ค่อยหนาวนัก ไม่ถึง -25 ด้วยเดี๋ยวนี้




ฤดูใบไม้ผลิ : Spring 
มีนาคม, เมษายน, พฤษภาคม 
March, April, May

          อุณหภูมิเฉลี่ย 1°C -16°C ช่วงเดือนมีนาคมหิมะเริ่มละลายหายไป และแดดก็เริ่มกลับมา พระอาทิตย์ขึ้นเร็วขึ้นเวลาประมาณ 6 นาฬิกา และเริ่มตกเวลาประมาณ 20:00 นาฬิกา นั่นหมายถึงวันของแต่ละวันก็ยาวขึ้นด้วยเช่นกัน  ส่วนต้นไม้ใบหญ้า ค่อยๆ งอกออกดอก ออกใบเขียวอ่อนๆ ช่วงเดือนเมษายน และเปลี่ยนเป็นใบเข้มช่วงเดือนพฤษภาคม ฝนก็มาด้วยจ้า



ฤดูร้อน : Summer 
มิถุนายน, กรกฎาคม, สิงหาคม 
June, July, August

          อุณหภูมิเฉลี่ย 17°C - 28°C  3 เดือนนี้ เป็นเดือนแห่งความหวังของคนนอร์เวย์ ความสดใสร่าเริงของผู้คนกลับมา เป็นฤดูร้อนที่เราไม่รู้สึกร้อนเลย รู้สึกสบายตัวมากๆ แต่ถ้าเดินกลางแดดในวันที่แดดจัด อันนั้นเหงื่ออาจตกได้ ....พระอาทิตย์จะขึ้นเวลาประมาณตี 4 และเริ่มตกประมาณ 21 นาฬิกา แต่เที่ยงคืนฟ้าก็ยังไม่มืดสนิท ซึ่งเป็นปัญหาในเวลานอนในตอนกลางคืนอย่างมาก ด้วยแสงแดดที่รอดผ่านผ้าม่านทำให้นอนไม่หลับและตื่นเร็วด้วย
          ปี 2018 เป็นปีที่ทุกคนจำได้ดีว่า หน้าหนาวหมดปุ๊ป ก็หน้าร้อนเลย ร้อนแบบยังกับอยู่เมืองไทย แล้วร้อนตลอดเกือบสามเดือน
          ปี 2019 ปีนี้ เกิน 30 องศา ค่ะ ทั่วยุโรปร้อนมากๆ นอร์เวย์ถือว่า ยังไม่ร้อนระเบิด



ฤดูใบไม้ร่วง : Autumn
กันยายน, ตุลาคม, พฤศจิกายน
September, October, November

          อุณหภูมิเฉลี่ย 0°C - 18°C ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง สีแดงร่วงลงกับพื้น ในเดือนพฤศจิกายน จะเริ่มรู้สึกได้แล้วว่าฤดูหนาวค่อยๆ คืบคลานเข้ามาเยือน อุณหภูมิจะลดลงเหลือตัวเลขหลักเดียว วันในแต่ละวันเริ่มสั้นลง พระอาทิตย์จะเริ่มขึ้นประมาณ 6 นาฬิกา และเริ่มตกเวลาประมาณ 20 นาฬิกา ในเดือนกันยายน  ..... ส่วนเดือนพฤศจิกายน พระอาทิตย์จะเริ่มขึ้นประมาณ  7 นาฬิกา และเริ่มตกเวลาประมาณ 16 นาฬิกา 



เฉลี่ยอุณภูมิที่พูดถึงนี้ คือที่เมืองหลวง "ออสโล"

- อากาศจะเย็นในช่วงเช้า และอุ่นขึ้นหลังเที่ยงวัน
- ถ้ายืนตากแดดจะอุ่นกว่า ยืนในร่มเงา เช่น ต้นไม้ สถานีรถไฟ
- วันที่มีลมพัดแรงจะหนาวเย็นยะเยือก ถึงอากาศจะดูเหมือนอุ่นก็ตาม
- ในแต่ละเดือน แต่ละฤดู จะมีฝนปนอยู่ด้วยในบางวัน ยิ่งหนาว เจอฝน ก็....ไม่ต้องพูดถึงเลย
- ก่อนออกจากบ้านต้องเช็คสภาพอากาศทุกครั้ง
- เช็คความชื้นของอากาศ(ฝน) มากกว่า 1 mm เตรียมร่มได้ 
- ลมพัดความเร็วเท่าไหร่ มากกว่า 5 m/s คือเย็นละ
- เมฆมากแค่ไหน ถ้ามากคือเราจะหนาวเพราะเท่ากับว่าอยู่ในร่มเงา
- พระอาทิตย์โชว์ 100% รึเปล่า ถ้าใช่ก็แต่งตัวลัลล๊าได้เลย
- ตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์จะหนาวตลอดทั้งปี
- อุณภูมิจะลดหลั่นกันไปตามช่วงของเดือน เช่น ถ้าเป็นช่วงคาบต่อเดือน พฤศจิกายน - ธันวาคม .....พฤศจิกายนจะหนาวกว่า กันยายนและตุลาคม

บทความแนะนำ คลิกที่ลิ๊งด้านล่างได้เลยจ้า

การเรียนภาษา

การหางาน และ นาฟ

วีซ่า

ความรู้ทั่วไป

รีวิว ที่เที่ยวใน Oslo