søndag 14. februar 2016

ฝึกงานร้านขายเสื้อผ้า Mango จนได้งานทำ

13-10-15
          เริ่มฝึกงานที่ Mango วันแรกก็เอ๋อๆ เป็นเรื่องธรรมดา.....ได้ชุดยูนิฟอร์มฟรีด้วยล่ะ กางเกงดำ 1, เสื้อเชิตส์ขาว 2, และเสื้อคลุมดำกันหนาวของ Mango และเดี๋ยวเดือนหน้าก็เปลี่ยนยูนิฟอร์มอีก 




          ทุกคนจะมีวอร์ไว้ติดต่อสื่อสารกันตลอด-ใส่หูฟัง เวลาทำงานวอร์ถามหาไซค์เสื้อผ้า เรื่องต่างๆ เกี่ยวกับงานบลาๆ และที่นี่พูดกันสามภาษา ได้แก่ อังกฤษ นอร์เวย์ และสเปน ฉะนั๊น ในหูก็จะได้ยินสามภาษานี้คุยกันทั้งวัน ฟังจนหูชาอะ

          วันแรกไม่มีไรมาก เค้าแค่อธิบายคร่าวๆ ว่าอะไรยังไง แต่ที่แน่ๆ ปวดขามากกกกกกกกกกกก แบบขาแข็งจะหักอะ ทำงาน จ.-ศ. เข้างาน 10.00-18.00 พัก 45 นาที ก็โอนะ (ฝึกงานเกือบสามเดือน)

1-3 วันแรก ปวดขามากๆๆๆๆๆ มันตึงไปหมด



4-5 เริ่มปวดหลังมากๆ เดินตลอดทั้งวัน แล้วก็แบกโค๊ทหนักๆ ไปแขวน และก็ไม่ง่ายที่จะหาสินค้าเจอ เดินวนไปสิหลายสิบรอบเลย จนตาลาย เพราะสินค้ามันคล้ายๆ กัน และอีกอย่าง เค้าสับเปลี่ยนตำแหน่งทุกวัน เป็นงานที่ใช้สมองๆ มากๆ ในการจดจำ

วันที่ 6-7 เริ่มดีขึ้น ขาไม่แข็ง แต่ยังปวดหลังอยู่ ตอน 1-2 ชม.สุดท้ายก่อนจะเลิกงาน

          ช่วงนี้ สอนเรื่องการ mix and match เทรนด์ไหนมา, ระบบภายในร้าน เช่น การคืนสินค้า, การสั่งสินค้าจากเน็ต-มารับที่ร้าน ถ้าไม่พอใจคืนเงินได้, ถ้าสินค้าซื้อไปแล้วสามเดือน มันพังก็สามารถเอามาเคลมได้ เฉพาะประเทศนี้เท่านั้น!!! (ขนาดนั้นเลยอะ) ตอนแรกรู้แต่ว่า ที่นอร์เวย์ เวลาซื้อของไปแล้ว ไม่ถูกใจ เอากลับมาขอเงินคืนได้ แต่ต้องมีใบเสร็จ แต่ Mango นี่สิ ซื้อแล้วพัง เอามาเคลมได้ สุดยอดไปเลย 

          ยูนิฟอร์มใหม่ดือนพฤศจิกายนได้เสื้อสีน้ำเงิน 2 ตัว, กางเกงเอวสูงสีเทา 2 ตัว

          พอเข้าเดือนธันวาคม ที่ร้านก็จะเตรียมตัวทำโปรโมชั่น แล้วทีนี้ หัวหน้าก็อยากให้เรามาช่วยงานในสต๊อคตอนเช้า คือ เข้างาน 07.00 - 15.00 ใน 2-3 วันต่อสัปดาห์ เราก็(เซเยส)ตลอด 

          คิดดู...ต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อเตรียมตัวไปทำงาน มืดก็มืด หนาวก็หนาว แต่เราก็ตั้งใจทำงาน 100% ตลอดทุ่มเทสุดๆ ไม่เคยเกี่ยง ไม่เคยปฎิเสธ 

          พนักงานร้านนี้มีเยอะมาก ทำงานกันเป็นกะ สับเปลี่ยนไปเรื่อย และหลากหลายเชื้อชาติ ส่วนใหญ่แล้วเป็นกันเองมากๆ รู้สึกสนุกที่ได้ฝึกงานที่ร้านนี้จริงๆ



          หัวหน้าตอนแรกที่เรามาสัมภาษณ์ เป็นคนสเปน แต่พอเข้าเดือนพฤศจิกา ก็เปลี่ยนหัวหน้าเป็นคนนอร์ชผู้หญิง จริงๆ แล้วนางเป็นหัวหน้าที่นี่มาก่อน แล้วไปเป็นหัวหน้าที่อื่น แล้วทีนี้ก็กลับมาปักหลักเป็นหัวหน้าที่นี่อีกรอบ 

         ดังนั๊น หัวหน้านางผู้หญิงจะออกแนวเคี่ยวกว่า เคร่งมากกว่า หัวหน้าคนสเปน เพราะหัวหน้าคนสเปนนางเป็นเก...นางตลก สนุก กันเองสุดๆ เลย ตอนก่อนที่เราจะได้มาฝึกงานที่นี่ ครูที่โรงเรียนโทรคุยแล้วว่า หลังฝึกงาน มีโอกาสได้งาน

          พอฝึกงานถึงเดือนธันวาคม เราก็เริ่มมีแพลนที่จะคุยกับหัวหน้า(คนนอร์ชผู้หญิง) ว่าเราอยากทำงานที่นี่ต่อ เธอ...ชั๊นใกล้จะฝึกงานเสร็จแล้ว ในวันที่ 22 มกราคม 2016 และชั๊นอยากจะทำงานที่นี่ต่อ มันจะเป็นไปได้ไหม? ก็ถามนางไป



          คำตอบคือ ..... จริงๆ แล้ว ชั๊นชอบเธอมากๆ เลยนะ เธอเก่ง บลาๆๆๆ แต่!!! เรามีพนง.ในร้านเยอะแล้ว เธอก็เห็นนี่

         อือ..ก็เห็น ก็รู้ ก็จริง ได้แต่ยิ้มสะเหยะ แฮ่ๆ ก็เศร้า กินแห้วไปค่ะ

         วันที่ 14 มกราคม 2016 ตอนเช้า นางพูดว่า เธอ..ชั๊นมีข่าวดีหล่ะ

          เรา.... อะไรหว่า แล้วนางก็เดินหายไป แล้วบอกว่า ไปเปิดเครื่องรีดผ้าไอน้ำข้างล่าง เราก็งง นิดๆ

          สักพัก นางลงตามมา นี่เธอ...ทางสเปนเค้าตอบรับการรับเข้าทำงานของเธอแล้ว แล้วนางก็ Velkommen to Mango เราก็ดีใจนะ แบบงงๆ ไม่สบายด้วยสิวันนั้น 

         สรุป ได้ทำงานจ้า ประมาณ 20-30 ชม.ต่อสัปดาห์  เราถือว่า นี่เป็นการเริ่มต้นที่ดี เรายังใหม่ และยังไม่เก่งพอ ยังไม่หวังกับการที่ได้ทำงานประจำ แต่ในอนาคตหวังแน่นอนจ้าาา 

          ช่วงเดือนตุลาคม 2016 Mango สาขา Vika จะเปิดให้บริการอีกครั้ง หลังจากการปิดปรับปรุง ดังนั้น เราคิดว่า เค้าต้องการพนง.หลายคนแน่ๆ เลย เพราะร้านนั้นเป็นร้านใหญ่ เราก็ยังมีหวังสิ ความคิดชั๊น :D

          ตอนแรกคิดว่า ถ้าฝึกงานจบแล้ว จะไปทำอะไรดีว๊าาา...หาคู๊ชใหม่เหรอ หาที่ฝึกงานใหม่เหรอ จะไปลองบานาฮาเก้นเหรอ ทั้งๆ ที่เราไม่ปลื้มเด็ก คิดไปล้านแปดมาก แบบไม่มีหลักลง ตอนนี้โอเคแล้ว เลิกคิดฟุ้งซ่าน ก็ตั้งใจทำงาน สู้ต่อไป จนกว่าจะได้งานประจำจ้า

ข้อดีของการฝึกงาน
- ได้เงิน.....จากนาฟ ฮ่าๆๆๆ
- ได้ประสบการณ์แน่นอน
- ได้มีอะไรเขียนใน Cv 
- ได้มีหัวหน้าอ้างอิงใน Cv ด้วย
- ได้มีโอกาสทดลองว่า เราจะชอบงานประเภทนี้รึเปล่า
- ได้มีคนคุยด้วย คุยกับลูกค้า กับเพื่อนร่วมงาม จะได้ไม่เหงา
- ได้พัฒนาภาษา พูดทั้งนอร์เวย์ และ อังกฤษ
- มีโอกาสได้งานทำหลังฝึกงาน ถ้าเรามีดีจริง 

ข้อเสีย...ไม่มีนะ

ปัญหาในการฝึกงาน(ทำงาน)
- เรื่องภาษาแน่นอน ศัพท์เฉพาะ คือเรายังไม่เทพไง
- การสื่อสารกับเครื่องวอร์คกี้ทอร์คกี้ ต้องดีและมีสติสมาธิตลอดเวลา
- ข้อมูลเรื่องสินค้า แฟชั่น มิก&แมท หรือการเปลี่ยนคืนสินค้า หน้าเอ๋อ หน้าเหวอ หน้าแตก หลายครั้งมาก รู้สึกว่าตัวเองไม่ฉลาด แต่ไงได้ เค้าไม่ค่อยจะสอนอะไรเลย ต้องถามเองทุกอย่าง

          การทำงานร้านขายเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า นี่ต้องมีความกระตือรือล้น ใจบริการลูกค้ามากๆ และความรวดเร็วในการทำงาน จะมายืนอยู่เฉยๆ นี่ไม่ได้เลย ต้องเดิน ต้องหาอะไรทำตลอดเวลา!!! 

          สุดท้าย มีความสุขกับการทำงานมากๆ ถึงแม้จะเป็นงานไม่ 100%  ก็ตาม งานที่นี่หาไม่ได้ง่ายๆ ทุกวันนี้ มีคนเดินเข้าวอร์คอินมาถามของานทำเยอะมากแทบจะทุกวัน เราจะเกาะตรงนี้ไว้ จนกว่าจะได้ประสบการณ์เยอะๆ จนเก่ง มีข้อมูลเยอะ ภาษาเป๊ะ ค่อยไปหางานอื่นทำ 

          อ้อ ได้ค่าขายด้วย 1% ของราคาสินค้าที่ขาย ถ้าเราเชียร์ขายของได้ ก็พูดในวอร์คกี้ทอร์คกี้ว่า ''ผู้หญิงคนหนึ่ง ซื้อเสื้อสีเขียวตัวนั้น มาจากชั๊น'' เท่านั้นหล่ะจ้า 

________________________________

          อัพเดทหลังจากได้ทำงานจริง
          ก็ยังมีความสุขที่ได้ทำงาน ถึงแม้บางวันจะเผชิญกับลูกค้ามนุษย์ป้าบ้างก็ตาม แรกๆ ก็ทำให้เราจิตตกได้ทั้งวันเลย แต่ตอนนี้เริ่มชินแล้ว คิดว่าตลกมากกว่า ว่าคนพวกนี้แปลกดี 
          นี่เพิ่งได้ชุดยูนิฟอร์มมาใหม่เดือนกพ. ได้เสื้อมาสอง, กางเกงหนึ่ง และ รองเท้าหนึ่งคู่ ทุกอย่างใหญ่หมด เสื้อไม่มีไซค์ xs เลยได้ s มา เลยต้องเอามาผูกไว้เพราะมันใหญ่มาก ยังกะผ้าห่มน่ะ ส่วนกางเกงก็มโหฬาร ต้องมาเย็บเอวเข้าเอง แต่สะโพกก็ยังใหญ่อยู่ เดี๋ยวว่างคงต้องนั่งเย็บไล่ลงไปที่ขาเลย รองเท้าก็เจ็บ ใส่ไม่สบาย ชุดนี้มีแต่เพื่อนหลายคนไม่ชอบ ไหนจะสี ไหนจะแบบ และใหญ่

          ส่วนเวลาการทำงาน ทำเป็นกะค่ะ บางวันทำ 10.00-18.00 บางวัน 12.30-20.30 บางวัน 13.00-18.00 บางวัน 15.30-20.30 ไปเรื่อยค่ะ วันเสาร์ก็แตกต่างเช่น แต่วันเสาร์ได้เงินพิเศษเยอะดีชอบ และลูกค้าเยอะด้วย ก็หนักสมกับเงิน :D
________________________________

        หลังจากที่เราเริ่มทำงานจริงๆ ตั้งแต่เดือนมกราคม พอเข้าเดือนที่ห้า ก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับแคชเชียร์ แคชเชียร์ที่เราคิดนี่แบบ ยืนสวยๆ สแกนสินค้า ใส่ถุง ง่ายๆ ชิวๆ แต่จริงๆ แล้วไม่เลยจ้าาาาา

        ระบบหลังบ้านมีเยอะมาก ต้องจำให้ได้ F1- F12 มีไว้ทำอะไรบ้าง มีการคืนสินค้า เปลี่ยนสินค้า ถ้าซื้อผ่านอินเตอร์เน็ตก็เอามาเปลี่ยนคืนที่ร้านได้ ทำแท่กฟรี บลาๆๆ เรียนรู้มากมายหยิบย่อย เรานี่มึนงงตึ้บไปหมด


          แรกๆ บอกเลยว่า เอ๋อ ตลอด กดผิดกดถูก ทำช้าด้วย ต้องคิดนาน และต้องเรียกให้คนอื่นมาช่วยเวลาที่เราทำไม่ถูก แต่ตอนนี้ก็เริ่มดีขึ้น หลังจากทำแคชเชียร์ได้ 2 - 3 เดือน                          

          ช่วงเดือนที่แมงโก้มีลดกระหน่ำราคาสินค้า มิย. เดือนนั้นเราได้เงินเดือนเยอะแบบไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้มาก่อน 28,xxx kr. ตกแสนสองพันบาท ดีใจมาก เพราะทำโอเวอร์ไทม์เยอะ แล้วเหนื่อยหนักมากเดือนนั้น




จะเข้ามาอัพเดทเรื่อยๆ

หลังจากที่ทำงานมาสักพักใหญ่ ก็มีเข้ามาฝึกงานหลายคน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้งานหลังฝึก คุณต้องโชว์ว่าคุณเก่ง เจ๋ง ขยัน จริงๆ คุณถึงจะได้งานนั้นมา

ใครที่กำลังหางานทำอยู่ สู้ต่อไปค่ะ
คนขยัน คนอดทน 
อยู่ที่ไหนก็ไม่อดตาย

4 kommentarer:

  1. ดีที่ได้งานหลังจากฝึกงาน สู้ต่อไปจ้า

    SvarSlett
  2. ได้อ่านเรื่องราวของคุณหนูนาแล้ว ดีและมีประโยชน์ค่ะ

    SvarSlett
  3. กำลังจะเป็นคนนึงที่เดินทางไปที่นอร์เวย์ ยินดีที่ได้รุ้จักนะคะ

    SvarSlett
  4. แล้ว F1-F12 มีไว้ทำไมคะ

    SvarSlett