mandag 25. januar 2016

ข้อดี - ข้อเสีย ของฤดูหนาว

ฤดูหนาวที่นอร์เวย์

ข้อดี ของฤดูหนาว
1. พอหิมะตกใหม่ๆ มันเกาะตามกิ่งไม้ ถ่ายรูปออกมาสวย เหมือนในเทพนิยายเชียว
2. ดีสำหรับคนชอบกีฬาในฤดูหนาว เช่น สกี, ไอซ์เสก็ต ฯลฯ
3. ดีสำหรับคนชอบเล่นหิมะ สไลด์บนหิมะ และสร้างสโนว์แมน
4. ผู้คนคิดในแง่ดีว่า ฤดูหนาวแล้ว เดี๋ยวก็ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ที่จะตามเข้า
5. ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำทุกวัน
6. ใส่เสื้อผ้าซ้ำกันได้ ไม่ต้องซักบ่อย
7. ประหยัดน้ำ
6. ตัวไม่เปียก เหงื่อไม่ออก ถ้าไม่ไปวิ่ง
8. คือ มันไม่ร้อน เหมือนประเทศไทยไง
9. ไม่จำเป็นต้องสระผมบ่อย



ข้อเสีย ของฤดูหนาว
ผิวแห้ง (ทั้งตัว)
- ใช้ครีมที่มีมอยเจอไรเซอร์พิเศษบนใบหน้า และทาครีมหรือออยล์บนผิวกายทุกวัน

มือแห้งหนักมาก
- ยิ่งคนทำงานที่ต้องใช้มือเยอะๆ ยิ่งแห้งคูณ 2 พกครีมทามือ และทาให้บ่อยเท่าที่จะทำได้
minmote.no
คันผิว เกา ก่อให้เกิดเม็ดผดผื่นแดง
- อย่าเกา!!! อันนี้ห้ามยากนะ แอดมินเกาจนผดขึ้นเต็มไปหมด แต่มันก็มันส์ดีนะ :D
- ล้างมือ ล้างจาน หรืออาบน้ำร้อน บ่อย ก็ทำให้เกิดอาการคัน เกา ตามด้วยผดผื่นแดง ทาที่ดีใส่ถุงมือยางล้างมือ จริงๆ แก้ด้วยการทายาแก้คัน แนะนำให้หิ้วมาจากเมืองไทยนะ
kk.no
สระผม-แห้งช้า
- ยิ่งคนผมยาวนะ เป่าผมเกือบชั่วโมงกว่าจะแห้งจ้า เพราะสระผมด้วยน้ำร้อน ผมเสียแตกปลาย และร่วงมาก ยิ่งตอนสระผมหลุดมาเป็นกำอะ

น้ำมูกแตก
- จะไหลลงมาแบบไม่รู้ตัว และมาเยอะด้วยสิ วิธีแก้ พกกระดาษทิชชู่เวลาออกนอกบ้านตลอดเวลา

เลือดออกจมูก
- เกิดจากเส้นเลือดฝอยแตกในโพรงจมูก เนื่องจากอากาศหนาว และจะไหลออกมาพร้อมกับน้ำมูกด้วย วิธีแก้ พยายามอย่าหายใจตรงๆ กับอากาศ อาจจะหายใจผ่านผ้าพันคอ (ผ้าพันคอที่สะอาด)
http://www.dinside.no
น้ำในท่อตัน
- เนื่องจากอากาศหนาวเกิน จนทำให้น้ำในท่อแข็งเป็นน้ำแข็ง

เปลืองไฟนิดนึง
- เพราะเครื่องทำความร้อนทำงานหนัก แต่ถ้าบ้านไหนมีเตาผิง ก็ดีไป

abchyteter.no
เป็นหวัดเรื้อรังง่าย
- หวัดเหรอ เป็นไปเลยจ้า อย่างต่ำ 1 อาทิตย์ วิธีแก้ ทำร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ ดื่มน้ำมากๆๆๆๆๆ

ช็อคอากาศ
- สำหรับคนไปพักผ่อนประเทศอื่น ในช่วงที่นอร์เวย์หนาว.....ตัวอย่างจากปสก. แอดมินแล้วกัน กลับไปเมืองไทยอุณหภูมิ 35 องศาอัพ พอกลับมานอร์เวย์เจอ ติดลบ 17 องศา ช็อคกับอากาศทันที สุขภาพพังได้ง่ายๆ
พื้นทางเดินลื่น
- หลังจากหิมะตกหลายๆ วัน ทับถมตามทางเดินจะทำให้ลื่นได้ หรือ ถ้าวันไหน อากาศเกิดอุ่นจนทำให้หิมะละลาย แล้วอยู่ๆ ก็หนาวขึ้นมาอีกครั้งแบบฉับพลันจะก่อให้เกิดน้ำแข็งบนทางเดิน ทำให้เดินลำบาก ล้มก้นจ้ำเบ้า ล้มหัวแตก แขนหัก ขาหัก ฯลฯ  ทำให้คนแก่หลายคน เลือกที่จะอยู่บ้านในช่วงฤดูหนาว เพราะพวกเค้ากลัวจะเกิดอุบัติเหตุ แก้โดยเอาก้อนกรวดมาโรย
vg.no
หิมะร่วงจากตึก
- อันตรายมากๆ เวลาเดินใกล้ๆ ตึก ต้องระวังหิมะแข็งร่วงลงมาใส่ศรีษะ จากข้อมูลมีเสียชีวิตบ่อยๆ ล่ะ
อุบัติเหตุทางถนน
- คล้ายๆ กับข้อบน ถนนลื่น ถึงแม้ยางล้อรถจะเป็นแบบสำหรับฤดูหนาวแล้ว แต่มันก็ไม่สามารถยึดเกาะกับถนนได้เสมอไป เกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก

ไม่สะดวกสบายตัว
- หนาวมากเกินไป เวลาเดิน เดินเกร็งตลอดเวลา ยิ่งลมพัดมา เกร็งกระดูกแทบหัก หน้าชา หู ไม่สามารถรับความรู้สึกได้
แอดมินพร๊อพเยอะเว่อ!!
เสียเวลาแต่งตัวเยอะ 
- ต้องใส่เสื้อผ้าหลายๆๆๆๆ ชั้น เพื่อปกป้องความหนาว และหนัก ลำบากเวลาเดิน ยิ่งถ้าจะไปขึ้นรถสาธารณ ต้องกะเวลาเพิ่มกว่าจะใส่โน่นนี่เสร็จ

ทำให้รถพังง่าย
- บนถนน เค้าจะโรยเกลือเพื่อช่วยให้ละลายหิมะ และ ก้อนกรวดเล็กๆ เค้าจะโรยไปบนถนน พอรถขับไป เกลือก็ตีขึ้นรถทำให้เป็นสนิม ส่วนก้อนกรวดตีขึ้นไปให้รถเกิดความเสียหายได้
สตาร์ทรถติดยาก
- รถเก่าจะสตาร์ทให้ติดนั้นยากมาก ส่วนรถรุ่นใหม่ๆ นี่มีวิวัฒนาการดีก็สตาร์ทติดง่าย หรือถ้าบ้านใครมีโรงรถก็ดีไป แต่ส่วนใหญ่จะไม่มีน่ะสิ

ขูดน้ำแข็งออกจากรถ-กระจก
 - ทำได้ยาก ลำบาก เสียเวลา และไม่สนุก

รถเมล์ล่าช้า
- ต้องยืนรอรถเป็นเวลาเนื่องจากถนนลื่น ถ้าคุณจะโทรบอกเพื่อนว่า เฮ๊ย! ชั๊นไปสายหน่อยนะ แล้วจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรเนี่ย เป็นอะไรที่ลำบากมาก ที่ต้องใช้โทรศัพท์ปราศจากถุงมือ คือ มันโคตร ของโคตรหนาวไง (ถ้าใครไม่เคยมีปสก.อาจจะไม่เข้าใจ)

เรือไม่แล่น
- บ้านใครที่ต้องเพิ่งเรือข้ามฟากนี่ ไม่ต้องพูดถึง ล่าช้าไปเลย แต่จริงๆ เค้าก็มีเรื่อเคลียร์น้ำแข็งเปิดทางให้เรือแล่นได้เหมือนกันนะ
รถไฟสัญญาณผิดพลาด
- เกิดความล่าช้า เพราะความผิดพลาดของสัญญาณ อันนี้ปกติก็เป็นบ่อยอยู่แล้วนะ

การขุดถางไถหิมะ ทั้งส่วนตัวและสาธารณ
- เป็นงานที่หลายๆ คนไม่ชอบเลย และไม่สนุกที่จะทำ ถ้าใครมีบ้านเป็นส่วนตัวก็ต้องถางหิมะด้วยตัวเอง แต่ถ้าใครอยู่เป็นเคหะ อพาทเม๊น ซึ่งมีคนรับผิดชอบตรงนี้ ก็ดีไป ไหนจะ ถางหิมะบนถนน บนสนามบิน ฯลฯ

แดดน้อย
- แดดไม่ค่อยมี ท้องฟ้าก็จะแบบเทา หดหู่ ทำให้คนไม่ค่อยกระฉับกระเฉง ทำให้ขาดวิตามินด้วย

พระอาทิตย์ขึ้นช้า และตกไว
- พระอาทิตย์ขึ้น 9 โมง 10 โมงเช้า และตกเริ่มตกในช่วง 15 -16:00

กินไอศรีม หรือดื่มเบียร์ นั่งชิวนอกบ้านไม่ได้
- ถ้าทำ คงไข้รับประทานแน่นอน  แต่บางคนก็ทำนะ :D


จบแล้ว ไว้คิดออกจะมาเพิ่มใหม่

          ที่แอดมินเขียนข้อเสียมากมาย ไม่ใช่ว่าคิดในแง่ลบนะคะ เพียงแต่ อยากให้เพื่อนๆ จินตนาการตามว่า ฤดูหนาวไม่ใช่ว่าแค่หิมะ แต่งตัวสวยๆ แล้วถ่ายรูป คือมันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะ!! บางคนชอบฤดูหนาว และหลายคนก็ไม่ชอบฤดูหนาวเลย.....คนนอร์ชกล่าว :D

บทความแนะนำ โดย All about Norway
คลิกที่ลิ๊งด้านล่างได้เลยจ้า 

การเรียนภาษา

การหางาน และ นาฟ

วีซ่า

ความรู้ทั่วไป

รีวิว ที่เที่ยวใน Oslo

søndag 17. januar 2016

เรียนภาษาให้เก่งเร็วๆ กับแนวคิด

เทคนิคการเรียนภาษาให้เก่ง เรียนให้ได้ไวๆ



การเรียนภาษา ทำได้อย่างไร
          ทุกคนมักจะเคยได้ยินว่า ''คนอายุมาก มักจะเรียนภาษาได้ยากกว่าเด็ก...''

          ยกตัวอย่างเช่น เด็กจะเรียนภาษาในทางที่แตกต่างจากผู้ใหญ่ คือ เด็กจะเรียนในทางที่ง่ายๆ เริ่มจากการพูด ก่อนการเขียน และจะฝึกจากการได้ยินเสียง โดยไม่คำนึงว่ามันเขียนหรือสะกดยังไง พูดง่ายๆ คือ ไม่ต้องนึกถึงอย่างอื่น นอกจากการฟังและพูด

          เด็กไม่มีข้อสงสัย ในการพูดผิด หรือพูดถูก อย่างผู้ใหญ่ และเมื่อผู้ใหญ่เรียนภาษาใหม่ ส่วนมากมักจะเรียนแบบละเอียดถี่ถ้วน ตั้งคำถามตลอดเวลาว่า ทำไม? อะไร? ยังไง? ทำให้หลายคนคิดว่า ต้องรู้คำศัพท์ให้ได้ดีก่อน ถึงจะกล้าพูดออกไป และผู้ใหญ่จะออกเสียงให้ถูกต้องนั้นก็ยากด้วย

          ในขณะเดียวกัน เด็กจะพูดไปเรื่อยตามที่ต้องการ โดยไม่กังวลอะไรทั้งนั้น และอีกอย่างหนึ่ง เด็กเรียนภาษาแบบสนุกเหมือนของเล่น จึงไม่ต้องเครียดเอาเป็นเอาตายอย่างผู้ใหญ่


          นักภาษาศาสตร์ หลายคนกล่าวไว้ว่า  เด็กสามารถเรียนภาษาใหม่ได้อย่างคล่องแคล่ว ก่อนอายุ 12 ขวบเต็ม พอหลังจากนั้น ก็จะเรียนภาษาใหม่ได้ยากแล้ว....เนื่องจาก เด็กเริ่มเปลี่ยนความคิดให้เป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้นและเล่นน้อยลง

          ถ้าอยากเรียนภาษาให้ได้ไวๆ และดีขึ้น เราต้องคิดให้ได้อย่างเด็ก!! อย่าไปกลัวว่าจะพูดผิดหรือพูดถูก พูดไปเถอะ เพ้อเจ้ออะไรก็ตามใจ ไม่ต้องอายสำเนียงไทย เหนือ อีสาน ใต้ ด้วย

เราสามารถเรียนภาษาได้เร็วแค่ไหน?
          คำถามยอดฮิตเลย เรียนกี่ปี ถึงจะพูดได้ บลาๆๆๆ ก่อนอื่นเราต้องถามตัวเองก่อนว่า....



- เคยไป รร. ทั้งชีวิตมากี่ปี (พื้นฐานการเรียนหนังสือ)
- เคยเรียนภาษาอื่นมาก่อนหรือเปล่า
- เข้าใจแกรมมาติกในภาษาไทยมากแค่ไหน (ภาษาแม่)
- เขียนหนังสือได้ดีในภาษาแม่หรือไม่
- ได้ใช้ภาษานอร์เวย์ นอกห้องเรียนรึเปล่า
- เรียนภาษามานานแค่ไหนแล้ว
- มีการตอบสนองอย่างไร เมื่อรู้ว่าการเรียนภาษานอร์เวย์มันยากเหลือเกิน
- อ่าน นสพ.ภาษานอร์เวย์ / ฟัง-ดู ข่าวนอร์เวย์ บ้างรึเปล่า
- มีแรงบันดาลใจมากพอที่จะเรียนภาษานอร์เวย์
- ได้รับการสนับสนุน ส่งเสริม ในการเรียนภาษามั๊ย

          ถ้าใครเคยเรียนภาษาอื่นมาก่อน เมื่อมาเรียนภาษานอร์เวย์แล้ว มันจะเรียนได้ง่ายและเร็วขึ้น เพราะเราสามารถเข้าใจโครงสร้างของภาษาได้เป็นอย่างดี ว่าเป็นไปอย่างไร และเราก็จะชินกับการเรียนคำใหม่โดยอัตโนมัติ



          มีความรู้เรื่องแกรมมาติกภาษาแม่(ภาษาไทย) มากแค่ไหน เพราะมันเป็นจุดสำคัญของการภาษานอร์เวย์ให้ได้ไวขึ้น ถ้าใครไม่ได้แกรมมาติกในภาษาแม่ ต้องเรียนเพิ่มอย่างเยอะเลย เพราะมันจำเป็นมากๆ ที่เราจะเข้าใจจากพื้นฐานแกรมมาติกภาษาแม่ สู่การเรียนภาษาใหม่ 

          ปัจจัยการเรียนภาษาให้ได้เร็วๆ คือ มีโอกาสได้ใช้ ได้พูดนอกห้องเรียนหรือไม่ มันเป็นสิ่งสำคัญที่เราได้ใช้บ่อยๆ พูดทุกวัน และวันนึง เราจะพูดได้อย่างน้ำไหลไฟดับ โดยไม่ต้องคิดเยอะเลย 

          เมื่อเราย้ายมาอยู่ประเทศใหม่ เจออะไรใหม่ สังคมใหม่ คนใหม่ สถานที่ใหม่ ระบบใหม่ และวัฒนธรรมใหม่ เหมือนเป็นโลกใหม่เลยก็ได้ เราต้องเรียนรู้ ทำตัวให้กลมกลืนกับมัน ถึงแม้จะต้องใช้เวลาก็ตาม และบ่อยครั้งทำให้เรามีเวลาในการเรียนภาษาน้อยลง

          บนพื้นฐานจากความเป็นจริง เราไม่ควรจะผิดหวังในความพยายามของตัวเอง พอใจในสิ่งที่เราทำได้ และโฟกัสในสิ่งที่เราทำไม่ได้ให้น้อยลง



          อีกปัจจัยสำคัญในการเรียนภาษา คือ การอ่านหนังสือ ถ้าเราเป็นคนอ่านหนังสือน้อยในภาษาแม่ตัวเอง มันจะทำให้เป็นเรื่องหนัก ในการอ่านหนังสือในภาษานอร์เวย์ด้วยเช่นกัน

          นักวิจัย กล่าว่า คนที่ชอบอ่านหนังสือ จะทำให้เก่งง่ายในเรื่องการเขียน เพราะฉะนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ที่พยายามอ่านเยอะๆ ถึงแม้จะไม่เข้าใจคำทั้งหมดที่อ่านก็ตาม แต่เราก็สามารถเดาคำศัพท์ เดาเรื่องราวต่างๆ จากเรื่องที่อ่านได้

          แนะนำให้เพื่อนๆ พกสมุดจดเล่มเล็กๆ ไว้เล่มนึง คอยจดคำใหม่ๆ นิดๆ หน่อย อ่านๆ ท่องๆ ทุกวัน เวลาเดินทาง นั่งรถสาธารณไปไหนมาไหน อ่านก่อนนอนบ้าง ถ้าไม่มีเวลา วันละ 5 นาทีก็ยังดี มันช่วยได้นะ ขอบอก

         เป็นอย่างไรบ้างคะ เพื่อนๆ กระจ่างไหมเอ่ย ได้ข้อคิดใหม่ เกี่ยวกับการเรียนภาษาให้เก่งไวบ้างรึเปล่า แอดมินคิดว่า มันมีประโยชน์มากและทำให้เราเก็ทอะไรหลายๆ อย่าง แบบว่า อ๋อ...มันเป็นแบบนี้เอง

          บทความนี้ แอดมินแปลและเรียบเรียง ในสไตล์ของแอดมินเลย ที่ชอบอธิบายแบบเคลียร์ๆ เพื่อเพื่อนๆ เข้าใจกันได้ง่ายๆ นะคะ ขอบคุณหนังสือ Går det bra. มากค่ะ



บทความแนะนำ โดย All about Norway
คลิกที่ลิ๊งด้านล่างได้เลยจ้า 

การเรียนภาษา

การหางาน และ นาฟ

วีซ่า

ความรู้ทั่วไป

รีวิว ที่เที่ยวใน Oslo

onsdag 13. januar 2016

แนะนำเว็บหาเพื่อน หาแฟน หาคู่ และเทคนิคไม่ให้โดนหลอก

หาคู่ หาเพื่อน หาแฟน ต่างชาติ

แอดมินได้คำถาม คำถามนึงบ่อยมากเลย คือ
เธอ...หาแฟนฝรั่งให้หน่อยได้ปะ 

          โอย...เป็นคำถามที่น่าเบื่อที่สุดในโลกเลยจ้าาาา ยิ่งบางคนนะ ไม่เคยได้รับการสนทนาติดต่อมาเป็นเวลานาน อยู่ๆ นางก็พิมพ์มาหาด้วยคำถามนี้ คือ แบบเซ็งมากเคอะ 

เรา             :          ทุกครั้งที่ตอบไปก็คือ เล่นเว็บไซค์เดทติ้งดิ
คนอื่น        :          ไม่เอา กลัวอะ
เรา             :          ยังไม่ทันจะลองเลย ก็กลัวแล้ว ถ้าเล่นแบบมีสติ ไม่มีจะมีอะไรน่ากลัวเลยสักนิด

          นึกในใจ ขี้เกียจหาเองละสิ มาให้เดี๋ยนหาให้ ฝันไปเถอะ บอกปัดหมดอะ แหม...จะมานั่งอยู่เฉยๆ แล้วฝรั่งมันจะลอยมาเหรอ ขนาดฝรั่งผลไม้ เธอยังต้องออกไปเดินตลาด เลือกๆๆ จ่ายตังเองเลย

          แต่สมัยเดี๊ยนเล่น เดี๊ยนเล่นเพราะอยากฝึกภาษากับชาวต่างชาติ ไม่ได้กะจะหาสามี คือ มันฟลุ๊ค ได้เป็นของแถมมา ก็เลย เลยตามเลย

         เอางี๊ เข้าเรื่องเลยดีกว่า ขี้เกียจจะบ่นแล้ว ที่นี้ก็มาแนะนำเว็บไซค์เดทติ้งกันดีกว่า และเทคนิคการเล่นแบบฉลาดๆ ไม่ให้โดนเค้าหลอก

1. www.interpals.net หลายภาษา ทั่วโลก เป็นแบบเขียนจดหมายสนทนากัน ไม่จำเป็นต้องหาคู่
2 www.thaifriendly.com ฝรั่งส่วนใหญ่จะอยู่ไทย ไม่ก็มาเที่ยวไทยบ่อย
3 www.dateinasia.com รวมผู้หญิงทั่วโลก ไม่ใช่แค่สาวไทยอย่างเดียว
4 www.thaiflirting.com สำหรับสาวไทยที่หาหนุ่มฝรั่ง
5 www.datingdna.com
6 www.dating.co.th
7 www.thaikisses.com
8 www.thailovelines.com
9 www.match.com  

          เว็บที่ได้มานี่ก็เซิสจากกูเกิ้ลเอา ถ้าใครอยากได้มากกว่านี้ ก็เซิสเอาเองว่า ''หาคู่ต่างชาติ'' มันก็จะขึ้นมาเพียบ ที่นี่ก็เลือกตามใจชอบ

          พอเลือกเว็บเดทติ้งได้แล้ว เราก็จะมาทำการลงทะเบียน ชื่ออะไร บลาๆ ลักษณะ ชอบคนแบบไหน คุณเป็นคนแบบไหน ฯลฯ เสร็จแล้วก็เลือกรูปที่คิดว่างามที่สุดในสามโลก

          อ้อ บางเว็บต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษ อันไหนไม่เข้าใจ ก็ก๊อปไปแปลในกูเกิ้ลเอาเน้อ

          เสร็จแล้วก็ลองเล่นดู ว่ามีใครออนไลด์บ้าง คุยๆๆๆๆๆ แต่ที่นี้ที่จะมาบอกเทคนิคไม่ให้ถูกหลอกคือ 

1. เล่นอย่างมีสติ  ค่อยๆ คุย ทำความรู้จักกันไป ไม่ต้องรีบ!! คุยไปเลย กี่สิบคนก็คุยไป คัดกรองไปด้วย

2. ไม่หลงเชื่อคำพูดจากตัวหนังสือ หรือคนที่เพิ่งคุย หรือคำพูดหวานเว่อ เช่น Darling I love you. , เธอสวยจัง, ตาเธอช่างเซ็กซี่แต่งงานกัน บลาๆๆ เป็นต้น

3. ไม่เป็นคนขี้สงสาร เช่น เมียตาย อยู่กับลูกสองคน ลูกป่วย ส่งเงินมาให้หน่อย... หรือ นี่ชั๊นกำลังส่งของไปให้เธอ แต่ต้องเสียค่าปรับ ขอยืมเงินก่อน บลาๆๆๆๆ อะไรที่พูดเกี่ยวกับเงินอะ เลิกคุยไปซะ อย่าเห็นว่า อ่อ..ต้องลงทุนเพื่อหาแฟนฝรั่ง ไม่ใช่เลย ผิด!!

4. โรคจิต โชว์ของลับเยอะมาก ระวัง!! หรือถ้าชอบ ก็โชว์กลับ แล้วแต่...

5. อย่าหลงเชื่อรูปโปรไฟล์หล่อๆ คุณสมบัติเทพๆ แม่ม ก๊อปรูปชาวบ้านมาหลอกทั้งนั้น เค้าเรียกว่าพวก สแกมเมอร์ เบื้องหลังคอมฯ เป็นคนดำนั่งเล่นหลอกกันเป็นแก๊ง และสาวไทยก็โดนหลอกเยอะมาก!!

6. นัดเจอกันในที่โล่งแจ้ง ระมัดระวังตัวตลอดเวลา ไม่ไปต่อที่ห้องผู้ชาย ถ้าคุณไม่อยากโดนฟันแล้วทิ้ง แต่ถ้าคุณอยากก็เชิญ ทำตัวให้มีค่านิดนึง สาวไทย (บางเคสอยากจับผู้ชาย ปล่อยท้อง พอผู้ชายรู้ หนีเลยจ้า)

7. ฝรั่งที่อยู่ไทย หรือ ไปกลับไทยบ่อยๆ พูดภาษาไทยได้ ต้องระวังนิดนึง เพราะพวกเค้าจะรู้อยู่ในหัวว่า สาวไทยเป็นอย่างนั๊น เป็นอย่างนี้ ง่าย อยากได้ฝรั่ง เป็นต้น อันนี้พูดเรื่องจริง แต่ไม่ได้หมายถึงทุกคน แต่ก็เยอะนะ

คนดีๆ หล่อๆ โปรไฟล์ดีๆ ก็มี แต่หายาก ฉะนั๊น สติค่ะสติ สำคัญที่สุด

          มีประโยชน์มั๊ย? แอดมินหวังว่าจะมีประโยชน์ต่อสาวไทยหลายๆ คนที่คิดอยากมีแฟนฝรั่งกันนะคะ

         จะบอกอะไรให้ฟังอีกนิดนึงนะ  ที่นอร์เวย์ ที่ที่แอดมินอยู่ มีคนหย่ากันครึ่งๆ เลยทีเดียว และเรื่องราวของสาวไทยก็ได้ยินมาเยอะมาก เช่น โดนทำร้ายทางร่างกาย, ทำร้ายทางจิตใจ, เห็นแก่ตัว, นอกใจ บ้างมีเมียไทยอยู่บ้านเดียวกัน แต่ยังแชทกับสาวไทยอื่นอีก, ติดสุรา ฯลฯ และการที่จะหย่ากันนั้นก็ไม่ง่ายด้วย ต้องทำเอกสารแยกกันอยู่ก่อน 1 ปี ถึงจะหย่าขาดกันได้ 

          ฉะนั๊น จะเกลียด อยากจะหย่าแบบเป็นผลทันทีนั้นไม่ได้ ก็ต้องทน กันต่อไป แต่ถ้ามีงานสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ก็ออกไปหาที่อยู่เอง แต่ถ้าไม่มี ก็ต้องพบเจอกับความลำบากมากมาย ยิ่งถ้ามีลูกอีก ไม่ต้องพูดถึง ไหนจะต้องขึ้นศาล บลาาๆๆๆ เยอะ!!! 

          หลายคนบอกว่า เพิ่งอกหักจากชายไทยมา เบื่อชายไทย บลาๆๆ อยากหาชายต่างชาติ .... จะบอกว่า ผู้ชายก็คือ ผู้ชายจ้า ไม่ว่าจะชาติไหน มันก็มีดี มีเลว ปนกันไปทุกที่ ทั่วโลกล่ะค่ะ คิดให้ดีๆ แล้วกันนะจ๊ะ
คุณมีความพร้อมแค่ไหน?
- พร้อมกับผลหรือปัญหาที่ตามมา ว่ามันไม่ได้สวยหรูไปซะหมด
- พร้อมกับวัฒนธรรมที่โคตรจะแตกต่างจากเมืองไทย
- พร้อมกับการสื่อสารที่แตกต่าง จะอธิบาย จะด่า ใช้ภาษาก็ลำบาก
- พร้อมกับการเริ่มนับศูนย์ใหม่ เมื่อไปเรียนภาษา และหางาน
- พร้อมกับอากาศที่หนาวเย็น หิมะตก พื้นเป็นน้ำแข็ง ลื่นล้ม
- พร้อมกับการที่ใส่แต่เสื้อกันหนาวและเสื้อหลายๆ ชั้นเป็นเวลาหลายเดือน
- พร้อมกับการที่ไม่สบายบ่อย เพราะอากาศ
- พร้อมกับการที่หาอาหารไทยอร่อยๆ ได้ยาก และหาไม่ได้ทุกอย่างที่อยาก
- พร้อมกับความรู้สึกที่อยากกลับเมืองไทย
- พร้อมกับการอยู่กับสามี โดยที่ครอบครัวตัวคุณอยู่เมืองไทย
- พร้อมกับการสละตำแหน่งหน้าที่การงานดีๆ จากเมืองไทย
- พร้อมกับการทำงานที่ไม่เลือก เช่น งานทำความสะอาด ถึงคุณจะจบสูงมาจากไหนก็ตาม
- พร้อมกับความเท่าเทียมกันของผู้หญิงและผู้ชาย
- พร้อมกับการจ่ายเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ ร่วมกัน
- พร้อมกับการอดทน ได้กับทุกๆ สิ่ง

ถ้าคุณพร้อมกับทุกข้อ 
ก็แสดงว่าคุณพร้อมที่จะมีคู่ครองเป็นฝรั่งในต่างแดนได้

โชคดีนะคะ ทุกท่าน